ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2563 ได้ถึงจุดต่ำสุด และค่อยๆ ฟื้นตัวในไตรมาสที่สามและสี่ของปี แม้ว่าการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไม่ได้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธรกิจนี้ แต่ก็สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศเปราะบางอยู่แล้วและต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการส่งออกเป็นอย่างมาก การระบาดของโรคจึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวได้ ปีนี้เลยนับว่าเป็นปีที่ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯซบเซาลง ในความเป็นจริงการซื้อคอนโดพรีเซลได้ลดลงจากปีที่แล้ว เป็นผลกระทบจากการให้อัตราสินเชื่อต่อมูลค่าบ้าน (LTV) ที่เข้มงวดมากขึ้น การแข่งขันในตลาดโลก และค่าเงินบาทที่แข็งค่า
ในช่วงเดือนเมษายน ยังไม่มีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ สาเหตุมาจากการลดลงของความต้องการที่จะซื้อจากผู้ซื้อทั้งจากในและต่างประเทศ
ผู้พัฒนาส่วนใหญ่ต่างรอดูสถานการณ์ในตลาดว่าจะไปในทิศทางใด ส่วนโครงการที่มีสัดส่วนการขายให้ผู้ซื้อต่างชาติสามารถโอนห้องชุดได้ตามเดิม โดยเฉพาะผู้ซื้อชาวจีน เนื่องจากการผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทาง รัฐบาลได้สนับสนุนเศรษฐกิจในหลายๆทาง ตั้งแต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การให้อัตราสินเชื่อต่อมูลค่าบ้าน LTV
การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างมาก โดยขณะนี้ชาวไทยและต่างประเทศต่างมองหาบ้านและคอนโดหรูตามย่านธุรกิจ เช่น ทองหล่อ และอสังงหาริมทรัพย์ที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเพื่อการลงทุน โดยปกติแล้วยอดขายของโครงการใหม่ๆมีผู้ซื้อชาวจีนและฮ่องกงคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 49% แต่เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ข้อจำกัดในการเดินทางของชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้ยอดขายชาวต่างชาติลดลง นับว่าเป็นโอกาสต่อผู้ที่สนใจซื้อได้รับผลประโยชน์จากโปรโมชั่นต่างๆจากหลายโครงการ
วิกฤตสร้างโอกาส ดังนั้นสำหรับผู้ที่สนใจเช่าหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ให้ดูทิศทางตลาดให้ดี